วิธีดูแลรถคันโปรดเบื้องต้นด้วยตัวเองที่ควรรู้

20 พ.ย. 2562 13:39:08 น.

 

วิธีดูแลรถคันโปรดเบื้องต้นด้วยตัวเองที่ควรรู้

การบำรุงรักษารถคันโปรดของคุณมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เราอาจจะเคยเห็นรถบางคันที่มีอายุพอสมควรแล้ว ทำไมยังใช้งานได้ดี ผิดกับบางคันที่ยังดูใหม่อยู่ แต่ก็พบกับปัญหาต่าง ๆ มากมาย สาเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากการดูแลที่ไม่เหมาะสมหรือขาดจากการดูแลอย่างถูกต้องนั้นเอง วันนี้เราจะมาดูวิธีเบื้องต้นในการตรวจเช็คและดูแลรถยนต์คันโปรดด้วยตัวเองกัน

#ตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่อ
การตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่อง เริ่มแรก ต้องอุ่นเครื่องยนต์จนถึงอุณหภูมิทำงานก่อน แล้วดับเครื่อง จากนั้นจึงจะทำการเช็คระดับน้ำมันเครื่องได้ โดยใช้ก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง วัดหลังดับเครื่องแล้ว 1-3 นาที จากนั้นดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมา เสร็จแล้วเช็คน้ำมันเครื่องที่ติดกับก้านวัดด้วยผ้าให้สะอาด เสียบก้านวัดน้ำมันเครื่องคืนกลับจุดเดิม ปิดท้ายด้วยดึงก้านวัดออกมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อตรวจดูระดับน้ำมันเครื่องที่ปลายก้านวัด ถ้าระดับน้ำมันเครื่องอยู่ระหว่าง “F” กับ “L” แสดงว่าระดับน้ำมันเครื่องปกติ

#การตรวจเช็คระดับน้ำหล่อเย็น
สำหรับรถที่ใช้งานปกติ ระดับน้ำหล่อเย็นควรมีการตรวจสอบอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง การตรวจเช็คทำได้ง่าย ๆ โดยตรวจดูระดับน้ำหล่อเย็นในถังพักขณะเครื่องเย็นลงแล้ว ระดับน้ำหล่อเย็นควรอยู่ระหว่างขีดระดับเต็ม “ FULL ” และ ขีดระดับต่ำ “ LOW ” ในกรณีที่ระดับน้ำหล่อเย็นต่ำกว่าขีด “ LOW ” ให้เติมน้ำยาหล่อเย็นจนถึงขีดระดับ “ FULL ” หากระดับน้ำหล่อเย็นลดลงถึงขีด “ LOW ” อีก หรือถ้าระดับน้ำหล่อเย็นลดลงผิดปกติหลังจากเติมเสร็จแล้ว แสดงว่าอาจเกิดการรั่วซึมภายในระบบ ให้รีบนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อทำการตรวจสอบและแก้ไขต่อไป

#ตรวจเช็คยาง
ควรเช็คแรงดันลมยางอยู่เสมอ ๆ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ถ้าลมยางอ่อนผิดปกติ ลองตรวจสอบดูรอยรั่วจากตะปูตำหรือรอยฉีกขาด และไม่ลืมดูว่าดอกยางสึกไปมากน้อยเพียงไรแล้ว

#ตรวจเช็คที่ปัดน้ำฝน
ยางปัดน้ำฝนเมื่อใช้ไประยะหนึ่งก็อาจมีการเสื่อมสภาพ เนื่องมาจากผิวสัมผัสส่วนปลายมีการสึกหรอหรือมีสิ่งสกปรก เช่น เศษหิน ทราย ขนาดเล็ก ติดอยู่ระหว่างยางใบปัดกับกระจกทำให้ยางปัดน้ำฝนสึกได้ นอกจากนี้ ยังสามารถสังเกต สภาพของที่ปัดน้ำฝนได้จากลักษณะการปัดได้ด้วย โดยหากปัดไม่สะอาดหรือมีเสียงดัง แสดงว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว

#ตรวจเช็คแบตเตอรี่
ควรตรวจสอบระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ ไม่ให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าที่ควร ส่วนแบต Maintenance Free ควรเปลี่ยนทุก 2 ปี และหากสตาร์ทติดยาก และเป็นแบตที่ใช้อายุนานเกินสองปี สันนิษฐานได้เลยว่าแบตเตอรี่ใกล้หมดอายุแล้ว

 

 

ติดต่อช่องทางอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่
โทรเข้ามาเลย : 0819455508
Line@ : @aamcenter
⁣⁣⁣Application : รองรับทั้ง IOS และ Andorid เพียงค้นหาคำว่า เอเอเอ็ม จัดไฟแนนซ์

กิจกรรมอื่น

บริการจัดสินเชื่อที่ดินแบบปังๆ ได้แล้วที่เอเอเอ็มทุกสาขา
ดูเพิ่มเติม
9 เคล็ดลับดูแลรถยนต์ให้เหมือนใหม่อยู่เสมอ
ดูเพิ่มเติม
ขอท้า 8 ชาเลนจ์ประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณ
ดูเพิ่มเติม