08 ม.ค. 2561 12:42:11 น.
ไม่ว่าจะยุคไหนๆ หากเราใช้จ่ายไม่ประหยัดก็ทำให้เงินของเราไม่มีเหลือหรือแย่กว่านั้นก็คือเงินติดลบหรือเป็นหนี้นั่นเอง และเพื่อไม่ให้เป็นหนี้เราจึงควรที่จะรู้จักประหยัดเงิน รู้จักใช้จ่ายให้คุ้มค่า เพราะเงินแต่ละบาทกว่าจะหามาได้นั้น เชื่อได้ว่าทุกคนๆ คงรู้ดีว่ามันต้องเหนื่อยขนาดไหน และเมื่อเราจะใช้ทั้งทีก็ควรจะวางแผนดีๆ ที่จะทำให้เราไม่ต้องมาลำบากจากการที่เงินติดลบในวันต่อๆ ไป ซึ่งการที่จะทำให้เงินเราไม่ติดลบนั้นวิธีที่ทำได้ง่ายที่สุดก็คือ เราต้องประหยัดเงินนั้นเอง
เลิกใช้จ่ายเงินแบบฟุ่มเฟือย
ให้เราเริ่มที่จะลด ละ เลิก สิ่งของฟุ่มเฟือยต่างๆ เช่น ขนม กาแฟ เสื้อผ้า เป็นต้น ซึ่งค่าใช้จ่ายพวกนี้หากว่าใช้แต่พอดีก็คงจะไม่มีค่าใช้จ่ายมาก แต่บางคนนั้นกินกาแฟแก้วละ 100 บาท แล้วกินบ่อยๆ กินแทบทุกวัน ลองเอาค่ากาแฟที่กินภายใน 1 เดือนมารวมกันดูสิครับ คุณจะเห็นได้ถึงตัวเลขที่น่าตกใจเลยทีเดียว และสำหรับสาวๆ ที่ชอบช้อปปิ้งเสื้อผ้า ก็อาจจะลดการซื้อลงบ้างก็ได้ครับ เพื่อที่เราจะได้มีเงินเหลือพอใช้ ทั้งหมดที่ว่ามานี้สามารถซื้อได้ แต่เราต้องควบคุมให้อยู่ในความพอดีให้เหมาะสมกับรายได้ของตัวเราด้วยครับ
ซื้อของที่ลดราคาบ้างก็ได้
ไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยนะครับ ที่เราจะเข้าไปซื้อของที่มีติดป้ายลดราคาไว้ ตรงกันข้ามหลายๆ คนกลับชอบซื้อของที่มีป้ายลดราคาเสียด้วยซ้ำเพราะว่าได้ของถูกใจแถมราคาสบายกระเป๋า เรียกได้ว่า วิน-วิน กันเลยทีเดียว แต่เราต้องไม่ลืมที่จะดูคุณภาพของสินค้าที่นำมาลดราคาด้วยนะ ว่าคุณภาพยังเหมาะสมกับราคาที่เราต้องจ่ายไหม อย่าหน้ามืดเห็นว่าลดราคาแล้วคว้าได้จ่ายเงินเลย แบบนี้ไม่ไหวนะ หากว่ามาตรวจเจอตำหนิในภายหลังอาจจะเสียใจได้
อีกหนึ่งตัวอย่างที่ค่อนข้างชัดเจนเกี่ยวกับคุณภาพและราคาที่เราต้องจ่ายก็คือ อาหารที่ลดราคาตามซูเปอร์มาร์เก็ต เห็นติดป้ายลดราคาก็อย่าพึ่งรีบซื้อนะ ให้เช็คดูวันหมดอายุดีๆ ก่อนว่ายังสามารถกินได้ไหมและเราจะกินหมดได้ทันไหม รวมถึงต้องเช็คดูว่ามีการเน่าเสียหรือเปล่าด้วย หากเช็คดูแล้วว่าไม่มีปัญหาอะไรก็สามารถซื้อได้เลย ( สำหรับผู้เขียนชื่นชอบมากกับการซื้ออาหารลดราคาตามซูเปอร์มาร์เก็ตเพราะลดราคาลงจากปกติค่อนข้างเยอะ และซื้อแล้วเราก็กินทันที จึงแทบไม่ต้องกังวลเรื่องการหมดอายุ อิ่มจังแถมสบายกระเป๋าด้วย และมีคำเรียกส่วนตัวสำหรับสินค้าพวกนี้ว่า สินค้าป้ายเหลืองอีกด้วย)
ตรวจสอบราคาก่อนซื้อเสมอ
หลายๆ คนคงเคยเจอกับการที่เราคิดว่าซื้อของมาได้ถูกมาก แต่พอมาตรวจสอบราคาดีๆ กลับพบว่าที่เราซื้อมานั้นแพงกว่าท้องตลาดด้วยซ้ำ เจอแบบนี้เป็นใครก็รู้สึกเสียใจทั้งนั้น และหลังจากรู้สึกเสียใจแล้วก็มักจะมีอีกอาการที่ตามก็คือ อาการเสียดายเงินนั่นเอง เพื่อที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับตัวเรา เราก็ควรที่จะทำการตรวจสอบราคาของสินค้าที่เราจะซื้อให้ดีก่อนเสมอ เช็คว่าร้านค้าที่เราจะซื้อ ขายอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ และลองเปรียบเทียบกับร้านอื่นๆ ในตลาดดูว่าส่วนใหญ่ขายอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ หากราคาใกล้เคียงกันก็ตัดสินใจขั้นต่อไปได้เลย ทั้งนี้เพื่อช่วยให้เราประหยัดเงินและไม่ต้องมาเสียใจในภายหลังนั่นเอง
ลองต่อราคาดูก่อนซื้อบ้างก็ได้
ในการใช้ชีวิตของเราต่อให้เราประหยัดแค่ไหนก็ตาม เราก็หนีไม่พ้นการซื้อของจากผู้อื่นอยู่ดี ดังนั้นเมื่อเราจะซื้อสินค้าอะไรก็ตามหากลองต่อราคาดูก่อนบ้างก็ไม่ถือว่าแปลกนะ เพราะในบางครั้งพ่อค้าแม่ค้าได้มีการตั้งราคาเผื่อส่วนที่ลูกค้าจะต่อไว้แล้ว เมื่อเรามีการสอบถามก็อาจจะสามารถลดราคาลงได้บ้าง ซึ่งก็จะช่วยให้เราประหยัดเงินไปได้นั่นเอง
เคล็ดลับต่างๆ ที่เราว่ามาในวันนี้นั้นไม่ได้ยากจนเกินไป และหลายๆ คนอาจจะมีการใช้กันอยู่บ้างแล้ว ซึ่งก็ทำให้เห็นว่าการที่เราจะประหยัดเงินได้นั้น สามารถเริ่มได้ด้วยตัวเราเอง ดังนั้นเราจึงควรเริ่มประหยัดกันตั้งแต่วันนี้ เพื่อที่ในอนาคตเราจะได้มีเงินเหลือไว้ใช้ครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก www.moneyguru.co.th
ติดต่อช่องทางอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่
โทรเข้ามาเลย : 0819455508
Line@ : @aamcenter
Application : รองรับทั้ง IOS และ Andorid เพียงค้นหาคำว่า เอเอเอ็ม จัดไฟแนนซ์