เมื่อน้ำท่วมรถไปแล้วทำไงได้บ้าง?

05 ก.ย. 2562 11:30:31 น.

 

เมื่อน้ำท่วมรถไปแล้วทำไงได้บ้าง?

ขั้นตอนเบื้องต้นเมื่อน้ำท่วมรถ

1.โทรแจ้งประกันรถยนต์

โทรแจ้งประกัน รอเจ้าหน้าที่ประกันมาประเมินความเสียหาย เมื่อรถโดนน้ำท่วมแล้ว เราต้องรีบเช็กเลยว่ารถเรามีประกันไหม? แล้วใช้ประกันชั้นไหน? เพราะแต่ละชั้นก็มีความคุ้มครองไม่เหมือนกัน ประกันรถยนต์ของเราคุ้มครองอุบัติเหตุจากภัยธรรมชาติไหม? เมื่อรู้แล้วว่ามีก็รีบ โทรแจ้งประกันก่อน ครับ ถ้าไม่มีก็ตั้งสติก่อน แล้วค่อยๆ ทำตามดังนี้

2.อย่าเพิ่งต่อขั้วแบตเตอรี่รถยนต์กลับคืน

น้ำที่ค้างอยู่ในรถนั้น อาจทำให้ระบบไฟฟ้าของรถยนต์ลัดวงจร และสร้างความเสียหายมากกว่าเดิม ก่อนที่น้ำจะท่วมรถถ้าเป็นไปได้ควร ถอดสายแบตเตอรี่รถยนต์ออกให้หมด ยกแบตเตอรี่หนีน้ำได้ยิ่งดี เพื่อป้องกันน้ำที่ท่วม ทำให้ประจุไฟในเบตเตอรี่รั่วออกจนหมด แล้วถ้าเราต้องการเคลื่อนย้ายรถก็ให้ใช้รถลากจูงออกมานะครับ โดยปกติแล้วทุกกรมธรรม์ประกันรถยนต์สามารถใช้บริการรถลากจูงได้ 1 ครั้งโดยไม่มีค่าบริการครับ ก็ลองติดต่อกับบริษัทประกันที่คุณใช้บริการดูนะครับ

3.เคลื่อนย้ายรถยนต์ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ

ย้ายรถออกมาตากแดดเพื่อให้น้ำระเหยออกไป จากตัวรถบ้างแม้จะช่วยได้ไม่มากนัก จากนั้นตรวจสอบระดับน้ำที่ท่วมก่อนเลยครับว่าท่วมมากขนาดไหน ถ้าท่วมมิดคันขอแนะนำตรงๆ ว่าเรียกประกันรถมารับรถไปซ่อมเถอะครับ โดยเฉพาะรถรุ่นใหม่ๆ ที่เป็นระบบไฟฟ้า เพราะสิ่งที่ต้องตรวจสอบนั้นมีทั้ง ระบบเกียร์ เพลา สตาร์ทเตอร์ และมอเตอร์ไฟฟ้าต่างๆ

4.ล้างรถให้สะอาด

รวมถึงฉีดน้ำเข้าไปในบริเวณใต้ท้องรถและซุ้มล้อ เพื่อล้างเศษดินทรายที่ตกค้างหรือติดอยู่ออกให้หมด  ซึ่งอาจมีเศษขยะหรือหญ้าแห้งติดอยู่ ที่อาจก่อให้เกิดไฟไหม้ได้ง่าย

5.จัดการห้องโดยสารให้แห้ง

เปิดประตูออกทุกบาน ให้ลมโกรก หรือถ้ามีแดดให้จอดตากแดด  จากนั้นถอดเบาะนั่ง พรม ผ้าต่างๆ ที่อยู่ภายในรถออกมาซักทันที เพราะถ้าทิ้งเอาไว้นาน ความเหม็นอับจะมาเยือน และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราและเชื้อโรคต่างๆ นอกจากเรื่องของเครื่องยนต์แล้ว พรมปูพื้น และเบาะต่างๆ ที่ตกแต่งภายในห้องโดยสารควรดูแลให้แห้งเพื่อป้องกันเรื่องของกลิ่นและเชื้อราภายในรถ ถ้าระดับน้้ำแค่ปริ่มๆ เรายังสามารถเอาพรมมาตากแห้ง เอารถตากแดดจัดๆ เพื่อให้เบาะพอหายชื้นไปได้บ้าง แต่ถ้าน้ำท่วมมิดคันก็เปิดประตูเทน้ำออกซะหน่อยแล้วไปศูนย์ให้บริการดีกว่าครับงานใหญ่เลยครับ

6.เป่าลมไล่น้ำตามรถ

ปลดทุกอย่างที่เป็นขั้วไฟฟ้าแล้ว ควรใช้ที่เป่าลม หรือ หรือไดร์เป่าผม เป่าทุกซอกทุกมุมในรถ ตรวจดูปลั๊กไฟ หลังจากนั้นใช้ลมเป่าทำความสะอาดทั้งหมด หรือใช้สเปรย์ไล่ความชื้นฉีดทิ้งไว้

7.นำรถไปตรวจสภาพ

สุดท้ายแล้ว เมื่อเรานำรถมาตากแห้ง อย่าลืมเปิดประตูและหน้าต่างให้ลมโกรกนะครับ เมื่อน้ำลง รถแห้งแล้ว F แนะนำให้ นำรถไปตรวจสภาพครับ  ให้ช่างด้วยเช็คด้วยดูอีกทีหนึ่งว่า รถเราเป็นอย่างไรบ้างแล้ว

 

ข้อมูลจาก :: Frank

ติดต่อช่องทางอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่
โทรเข้ามาเลย : 0819455508
Line@ : @aamcenter
⁣⁣⁣Application : รองรับทั้ง IOS และ Andorid เพียงค้นหาคำว่า เอเอเอ็ม จัดไฟแนนซ์

กิจกรรมอื่น

ใส่เกียร์ว่างลงสะพาน หรือก่อนรถหยุด...........สิ่งต้องห้ามสำหรับเกียร์ออโต้
ดูเพิ่มเติม
ดาวน์โหลด MApp ในเครือประชากิจฯ รับ 1,000 LIKE
ดูเพิ่มเติม
 บริษัท เอเอเอ็มจัดไฟแนนซ์ จำกัด  ขอแจ้งปิดทำการอบรมสัมมนาสมาชิก
ดูเพิ่มเติม