7 เคล็ดลับ วิธีการออมเงินอย่างไรให้รวย สร้างแรงบันดาลใจสำหรับทุกวัยแบบง่ายๆ

การออมเงิน คือ การแบ่งเงินส่วนหนึ่งจากรายได้ของคุณที่ได้หักค่าใช้จ่ายแล้ว นำมาเก็บไว้เพื่อนำไปใช้จ่ายในวันข้างหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้สูงอายุ หากคุณมีนิสัยรักการออม รู้จักเก็บหอมรอมริบเงินทีละเล็กทีละน้อยก็จะส่งผลให้คุณมีเงินและทรัพย์สินพอกพูนยิ่งขึ้น มีเงินใช้ในยามฉุกเฉินหรือเป็นเงินค่ารักษาพยาบาล และมีเงินลงทุนเพื่อต่อยอดในอนาคต ซึ่งแต่ละวัยจะมีแหล่งรายได้ที่ต่างกันออกไป ดังนี้
รายได้ของแต่ละวัย
– วัยเรียน : น้องๆ หนูๆ จะมีรายได้มาจากค่าขนมที่ได้รับจากผู้ปกครอง บางคนอาจได้เป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน หากโตหน่อยอย่างวัยมัธยมและอุดมศึกษาก็มีรายได้เสริมจากการทำงาน part time หรือเงินรางวัลจากการเข้าประกวดต่างๆ ของทางโรงเรียน หรือกิจกรรมส่งเสริมความรู้ของภาครัฐและเอกชน
– วัยทำงาน : รายได้หลักๆ ของคนวัยทำงานนี้จะมาจากเงินเดือนเป็นส่วนใหญ่ และได้รับเงินจากสวัสดิการต่างๆ เช่น เบี้ยขยัน เงินโอที และโบนัส บางคนนำเงินไปลงทุนเพื่อให้ได้ดอกเบี้ย เช่น การฝากเงินกับธนาคาร เล่นหุ้น หรือซื้อกองทุน เป็นต้น อาจจะมีบ้างเล็กๆ น้อยๆ ที่มาจากรายได้เสริมนอกเวลางาน เช่น การขายของทางอินเตอร์เน็ต หรือตลาดนัด
– วัยผู้สูงอายุ : สำหรับวัยนี้ ถือว่าเป็นบั้นปลายชีวิต รายได้ที่ได้รับก็ลดลงเพราะเป็นวัยเกษียณอายุงาน แหล่งเงินได้มาจากเงินบำเหน็จบำนาญซะส่วนใหญ่ หรือบางท่านก็นำความรู้ความสามารถของตนเองไปต่อยอด โดยการทำธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ เช่น ปลูกผัก ขายอาหาร ทำงานฝีมือ หรือเป็นที่ปรึกษาบริษัทต่างๆ
เคล็ดลับการออมเงิน
ดังคำสอนที่ว่า “มีสลึง พึงบรรจบ ให้ครบบาท…” คำนี้เรามักได้ยินกันมาตั้งแต่เด็กๆ วันนี้เรามีวิธีการออมแบบง่ายๆ มาฝากกันนะคะ
- เริ่มหยอดเงินใส่กระปุกทุกวัน ให้น้องๆ ตั้งเป้าหมาย เช่น หยอดเงินวันละ 5 บาท หรือ 20 บาท จากค่าขนมที่ได้รับ หากเป็นวัยทำงานอาจแยกหลายๆ กระปุก มีการติดป้ายระบุไว้ตามจุดประสงค์ เช่น ลงทุนธุรกิจ ท่องเที่ยว หรือเงินฝาก
- เปิดบัญชีธนาคาร เริ่มต้นฝากเงินแบบออมทรัพย์ก่อน เพราะสามารถฝากหรือถอนเงินโดยไม่มีขั้นต่ำ หากรายได้และรายจ่ายคุณมั่นคง ค่อยๆ ขยับไปเปิดบัญชีฝากประจำ ซึ่งการฝากนี้จะต้องฝากเท่ากันทุกเดือนตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร
- ทำบัญชีรายรับ – รายจ่าย วิธีนี้ทำให้คุณเห็นรายการการใช้เงินของแต่ละวัน และค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ หรือค่าประกันต่างๆ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และทำให้การออมของคุณได้ผลที่สุด
- ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น หยุดตามกระแสโซเชียล โดยเฉพาะนักช้อปทั้งหลาย ควรเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ ราคาเหมาะสม ใช้งานได้จริง และศึกษารายละเอียดสินค้า ไม่หลงเชื่อคำโฆษณา พยายามยับยั้งใจไม่ให้คล้อยตามกับป้าย sale ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า หรือรองเท้า เป็นต้น นอกจากนี้ควรลดการทานบุปเฟ่ต์เพื่อความคุ้มค่า งดเข้าร้านอาหารหรูตามห้าง และหันมาปรุงอาหารทานเอง เพื่อช่วยรักษาสุขภาพทางการเงินและสุขภาพร่างกายของคุณด้วย สุดท้ายวางแผนสักนิดก่อนเดินทาง ไม่ว่าจะรถยนต์ส่วนตัวหรือรถสาธารณะ คุณควรศึกษาเส้นทางที่จะไป เพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
- พกเงินน้อยลง มีเยอะก็ใช้เยอะ คุณควรคำนวณค่าใช้จ่ายรายวัน ได้แก่ ค่าอาหาร และค่าเดินทาง เพื่อไม่ให้ใช้เงินเกินตัว อ๋อ…พกเงินสดน้อยลง แต่มิใช่ไปใช้บัตรเครดิตนะจ๊ะ ควรใช้ในยามจำเป็น ไม่ใช้ซื้อของที่ฟุ่มเฟือยนะ เพราะยอดเล็กๆ น้อยๆ นี่แหละพอรวมมาแล้วจะจ่ายไม่ไหวเอา คุณจะจ่ายได้แค่ขั้นต่ำ ซึ่งทำให้ต้องเสียดอกเบี้ยตามมา
- เพิ่มเทคนิคการออม เป็นวิธีที่ต้องอดทน เช่น เลือกเก็บธนบัตรใบใหม่ๆ ที่เพิ่งได้มาเสมือนยังไม่มีคนใช้, เจอแบงค์ 50 บาทจะไม่ใช้, เลือกเก็บแบงค์ที่มีหมายเลขตัวสุดท้ายเป็นเลข “9” หรือตัวเลขที่ชื่นชอบ, ออมเงินตามวันที่ หรือหักเงินออม 5% 10% จากค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น ค่ากาแฟ ค่าบุปเฟ่ต์ หรือการช้อปปิ้ง
- สร้างรายได้ การมีรายได้มากกว่าหนึ่งทาง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออมเงินของคุณให้ได้มากยิ่งขึ้น เช่น ลงทุนในกองทุนที่มีประสิทธิภาพ ขายของออนไลน์ สอนพิเศษ รับพิมพ์งาน หรือรับแปลบทความ เป็นต้น
นอกจากวิธีที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว “ความพอเพียง” เป็นสิ่งที่ทุกคนควรมี หากคุณรู้จักพออยู่ พอกิน พอใช้แล้วนั้น การออมเงินไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแค่คุณมีวินัยและใส่ใจที่จะศึกษาหรือวางแผนการใช้เงิน คุณก็จะมีฐานะทางการเงินที่มั่นคงได้
ติดต่อช่องทางอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่
โทรเข้ามาเลย : 0819455508
Line@ : @aamcenter
Application : รองรับทั้ง IOS และ Andorid เพียงค้นหาคำว่า เอเอเอ็ม จัดไฟแนนซ์